Open/Close Menu
เราคือผู้เชียวชาญด้านการศึกษาและทำงานที่ออสเตรเลีย
Home · 2014 · May

There is no excerpt because this is a protected post.

ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าประกันสุขภาพ หากไม่มีประกันสุขภาพ ขอบอกเลยว่าค่ารักษาพยาบาล ค่ายา ค่าหมอ ที่ออสเตรเลียโหดร้ายมาก ถึงกับล้มละลายแล้ว เข้าเรื่องเลยหล่ะกัน เพราะว่าวีซ่านักเรียนนั้นทางอิมมิเกรชั่นเค้าประกาศเลยว่า ่คุณจะต้องมีประกันสุขภาพ ย้ำ ต้องมี หากไม่มีก็ขอวีซ่านักเรียนไม่ได้ คราวนี้เข้าใจหรือยังว่านอกจากช่วยลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลขณะอยู่ออสแล้ว แต่มันสำคัญหากคุณไม่มีประกันสุขภาพ คุณก็ไม่สามารถยื่นขอวีซ่านักเรียนได้ครับ Health Insurance for Students You must have health insurance while in Australia. Health insurance can be provided by obtaining Overseas Student Health Cover (OSHC) which provides medical and hospital insurance. See: Overseas Student Health Cover – Frequently Asked Questions You can…

รายนามแพทย์และโรงพยาบาลที่ได้รับการอนุมัติโดยแผนกวีซ่า รายนามแพทย์/โรงพยาบาลที่ระบุนี้ใช้สำหรับการยื่นขอวีซ่าประเทศออสเตรเลียเท่านั้น ผู้ขอวีซ่าจะต้องตรวจสุขภาพโดยแพทย์/โรงพยาบาลที่ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลออสเตรเลีย ส่วนผลการตรวจสุขภาพที่ไม่ได้มาจากแพทย์/โรงพยาบาลที่ได้รับการอนุมัติโดยปกติไม่สามารถยื่นได้ กรุงเทพ Bangkok General Hospital Summary Medical and Radiology examinations Street address 2 Soi Soon Vichai 7 New Phetchburi Road – 10310 Telephone +66 2 310 3000 Fax +66 2 310 3335 Additional information Doctor(s): Dr Jantana Pongsanguansin Dr Kanwar Singh Dr Sumalee Kewcharoen Dr Tanat Phaisakamas Dr Sumitra Werawatganon Dr Paiboon Siripongwishet  …

สำหรับยุคสมัยที่ว่าข้าวของแพง อะไรประหยัดได้ก็ต้องประหยัดกันไป ก็เหมือนกับเรื่องวีซ่านักเรียน หากใครเป็นแฟนกัน หรือเป็นสามีภรรยากัน ก็สามารถทำเรื่องติดตามกันได้ โดยที่ว่าจ่ายค่าเรียนคนเดียว แต่สามารถมาได้ 2 คน ซึ่งประหยัดและคุ้มกว่ากันเยอะ ส่วนค่าธรรมเนียมวีซ่าติดตามนั้นก็สนนราคาอยู่ที่ $405 เท่านั้นเองครับ เห็นมั้ยครับว่าถูก มา2 แต่จ่ายแค่คนเดียวจริงๆๆ แต่ในปัจจุบันแล้ว เด็กนักเรียนไทย ส่วนใหญ่ ก็วีซ่าตัวนี้ เป็นส่วนลดสำหรับค่าเล่าเรียนกัน โดยการจับคู่กันเพื่อส่วนลดและประหยัดกันค่าเรียนนั้นเอง ถึงแม้จะไม่ได้เป็นแฟนกัน แต่เราก็ติดตามกันได้  โดยคนเรียนจะจ่ายค่าเรียนถูก คนติดตามจะจ่ายค่าเรียนแพง ประมาณว่า 30%-70%  คือคนเรียนจ่ายค่าเรียนแค่ 30% แต่คนติดตามต้องจ่ายค่าเรียน70%  เพราะคนติดตามไม่ต้องเรียน แถมทำงานได้เต็มเวลาแบบว่า NON STOP นั้นเอง แต่สัดส่วนการจ่ายเงินค่าเรียนนั้น ไม่มีสูตรตายตัวขึ้นอยู่กับการตกลงของแต่ละคู่เองครับผม จะเห็นได้ว่าวีซ่าติดตามนั้นเมื่อก่อน คือเป็นการติดตามของคู่แฟน หรือสามีภรรยาจริงๆๆ แต่ ณ.ปัจจุบันนั้น ดันกลายเป็นเรื่องผลประโยชน์ของการทำงาน และการประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนเรื่องค่าเรียนกันครับ หากเพื่อนๆเห็นว่ามีคู่รักคนไทยไปจดทะเบียนสมรสที่ สถานฑูตไทยนั้น ก็อย่าเหมารวมกันว่า เป็นคู่รักกันจริงๆๆนะเธอ ตอนนี้วีซ่าติดตามนั้น ไม่จำกันเฉพาะชายกับหญิงนะครับ ชายกะชาย หรือหญิงกับหญิงก็ทำได้ครับ เห็นมั้ยว่าออสเตรเลีย…

สำหรับผู้ที่ถือหนังสือเดินทางออสเตรเลียนั้น สามารถจะอยู่ประเทศไทยโดยไม่ต้องขอวีซ่าได้ 30 วัน หากเกิน 30 วัน จะโดนค่าปรับวันหล่ะ 500 บาท แต่จะอนุโลมสำหรับหากเกิน 1 วัน จะไม่เสียค่าปรับ และหากต้องการอยู่ประเทศไทยเกิน 30 วันนั้น เราสามารถเดินทางออกนอกประเทศไทยและกลับเข้ามาใหม่ได้ เช่น เราสามารถเดินทางไปลาว มาเลย์  และกลับมาประเทศไทยใหม่ ก็สามารถอยู่ได้ 30 วันครับ ผมไม่แนะนำให้ไปกัมพูชา หรือพม่า เพราะว่าจะต้องเสียค่าวีซ่าครับ สำหรับคนไทยที่ถือหนังสือเดินทาง 2ประเทศ ผมแนะนำให้ใช้หนังสือเดินทางดังนี้  ตอนออกจากออสเตรเลียให้ใช้หนังสือเดินทางออสเตรเลีย ตอนเข้าประเทศไทยให้ใช้หนังสือเดินทางไทย *** หลักง่ายๆ คือ เข้าและออกประเทศไหน ให้ใช้หนังสือเดินทางประเทศนั้นครับ   แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ ถามว่ารู้ทั้งรู้ว่าว่าควรใช้หนังสือเดินทางไทยเข้าประเทศไทย แล้วทำไมถึงใช้หนังสือเดินทางออสเตรเลียเข้าประเทศไทย ก็เพราะว่า 1.ครั้งนี้ผมเดินทางเข้าออกหลายประเทศ เลยขี้เกียจอธิบายตม. เวลาที่จะไปยุโรปหรือ ประเทศอื่นๆว่าทำไมไม่มีวีซ่าประเทศนั้นๆๆ 2.หากถือหนังสือเดินทางออสเตรเลียเข้าประเทศไทยนั้น สามารถรับภาษีนักท่องเที่ยวคืนได้ด้วยครับ 7% แต่รอบนี้เกิดผิดพลาดเที่ยวไทยเพลิน เลยอยู่ไทยเกิน30วัน เลยโดนปรับตามระเบียบครับ

Copyright © 2013